วัดปราสาทเยอเหนือ ตั้งอยู่ในบ้านปราสาทเยอเหนือ ตำบลปราสาทเยอ อำเถอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ อายุประมาณ 200 กว่าปี สร้างขึ้นโดยชาวบ้านที่นับถือศาสนาพุทธซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเยอที่ได้รับอารยธรรมทางขอมมา ดังนั้น สิ่งก่อสร้างในวัดจึงคล้ายคลึงศิลปะแบบขอมโบราณผสมสมัยใหม่ โดยวัดมีความเจริญมากในสมัยที่หลวงพ่อมุมปกครองดูแล เพราะศรัทธาในวัตรปฏิบัติที่เรียบง่าย มักน้อย สันโดษ พูดน้อย แต่มีเมตตาสูงมาก อีกทั้ง นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของจังหวัดศรีสะเกษ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานกฐินต้นในจังหวัด และวัดปราสาทเยอเหนือก็เป็นวัดแรกที่ทรงพระราชทานกฐินต้น
นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีสิ่งสำคัญ คือ พระประธาน, สถูปเจดีย์ และ เจดีย์ทรงธาตุพนม ที่ให้ทุกท่านได้กราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว
“ปราสาทเยอ” อยู่วัดปราสาทเยอเหนือ ตำบลปราสาทเยอ อำเภอไพรบึง เป็นโบราณสถานในศิลปะเขมร อยู่ในสภาพหักพัง มีลักษณะเป็นเนินโบราณมีชิ้นส่วนของหินทราย อิฐ ศิลาแลงกระจายอยู่ทั่วไป ตัวปราสาทสร้างด้วยอิฐ หินทราย ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลง รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ยาวด้านละ ประมาณ ๓ เมตร สูงประมาร ๔.๕๐ เมตร ชิ้นส่วนอาคารที่เหลืออยู่ได้แก่ กรอบประตูหินทราย ด้านทิศตะวันออกสองประตู มีทับหลังตกอยู่สองชิ้น เป็นภาพบุคคลอยู่บนเกียรติมุข กำลังคายท่อนพวงมาลัยออกมา ทั้งสองข้างมีพวงอุบะ และใบไม้ม้วน ปราสาทแห่งนี้สร้างเมื่อประมาณพุทธศวตรรษที่ ๑๖ – ๑๗ ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๘
“ซุ้มประตูโขงของวัดปราสาทเยอเหนือ” ความงดงามของประตูโขงของวัดที่เป็นศิลปะแบบบายน (เขมร)ซึ่งเป็นปูนปั้นแต่ยังคงมีความงดงามไม่แพ้หินทราย ช่างที่ทำงานศิลปกรรมชิ้นนี้น่าจะมีความชำนาญ จึงสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ประณีตงดงามไม่แพ้หินทราย ซุ้มประตูโขงที่วัดปราสาทเยอเหนือนี้ มีความโดดเด่นทางศิลปกรรมมาก มีความชัดเจนของอารยธรรม ท้องถิ่น ทำให้บรรยากาศมีความเข้มขลัง สิ่งที่บ่งบอกถึงอารยธรรมของ ฮินดู – พราหมณ์ คือนางอัปสรา หรือ อัปสร ซึ่งคำว่า “อัปสร” นั้น มาจากคำว่า “อัป” (หมายถึง น้ำ) และ “สร” (หมายถึง การเคลื่อนไป) อัปสร จึงหมายถึง ผู้ที่เคลื่อนไปในน้ำ นางอัปสรมีอำนาจแปลงกายได้ ทั้งยังมีความสามารถในการขับร้องและเต้นรำเป็นอย่างยิ่ง ในราชสำนักของพระอินทร์มีนางอัปสรอยู่ 26 ตน แต่ละตนมีความสามารถในเชิงศิลปะต่างๆ กัน